Point & Pip  

ในการเทรดเราใช้ค่า Pip และ Point ในการวัดระยะทำกำไร Take Profit และ Stop loss ในทุกๆการเทรด เพราะ Pip และ Point เป็นหน่วยวัดสากลที่เราสามารถใช้สื่อสารกับเทรดเดอร์คนอื่นๆได้ นอกจากนี้ยังใช้ค่า Pip และ Point ในการคำนวณ ขนาดของการซื้อขายแต่ละครั้ง ( Lot Size ) ในการเข้าเทรดเพื่อให้เป็นไปตามแผน การบริหารเงินในการลงทุน  

( Money Management ) และไม่ซื้อๆขายๆบ่อยมากเกินไป ( Overtrade ) อีกด้วย 

Point และ Pip คือ หน่วยของค่าเงินเป็นหน่วยของการเปลี่ยนเเปลงในตลาด Forex 

Pip และ Point คือหน่วยนับการเคลื่อนที่ของราคาในกราฟ 

Pip ใช้นับจุดทศนิยมตัวที่ 3 กับ ตัวที่ 4 

Point  ใช้นับจุดทศนิยมตัวที่ 3 กับตัวที่ 5 

เทคนิค คือ Point = ทศนิยมตัวหลังสุด และ 10 Point = 1 Pip 

ตัวอย่าง 

  • ราคาปัจจุบันของ EURUSD = 2.46810 
  • และได้เคลื่อนไปเป็น 2.46820 
  • แบบนี้เรียกว่า: ราคาขึ้นมา 10 Point หรือ 1 Pip 
  • 1.09123 
  • 1.2345 

Lot 

เป็นจำนวนหน่วยมาตรฐานของสินทรัพย์ที่ซื้อขายยิ่งปริมาณต่อ Lot  มากเท่าไหร่ ความเสี่ยงจะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น เมื่อทำการซื้อขาย แต่สามารถเลือกขนาด Lot ที่พวกเขาสามารถเข้าซื้อได้ เนื่องจากการซื้อหนึ่ง Lot เต็มในบางครั้งก็อาจมีราคาแพงเกินไป 

 โดยปกติหนึ่ง Lot มาตรฐานคือ 100,000 หน่วยสกุลเงินของสกุลเงินฐานบัญชี ซึ่งมีขนาด Lot ที่เล็กกว่า ได้แก่ มินิ (mini) (0.1 ของล็อตมาตรฐานหรือ 10,000 หน่วย) ไมโคร(micro) (0.01 ของล็อตมาตรฐานหรือ 1,000 หน่วย) และนาโน(nano) (0.001 ของล็อตมาตรฐานหรือ 100 หน่วย) 

Portfrilo(การบริหารพอร์ต) 

Balance  List  Leverage  lot 

วิธีคำนวนขนาดlotจากเงินหน้าตักและจากเงิน Leverage ภายใต้ความเสี่ยงเท่าไหร่ 1000ใส่พอร์ต50จะได้กำไรเท่าไหร่ 


มูลค่าหรือขนาดสัญญา (1lot = 1Contract Size ) 

ในตลาด Forex มูลค่าหรือขนาดสัญญา เช่น 1 lot จะเท่ากับ 100,000 หน่วย 

และขนาดสัญญาของ 1 Cent lot หรือไมโคร จะเท่ากับ 1,000 หน่วย 


Symbol 

Symbol ก็คือสัญลักษณ์ เมื่อนำมาใช้ในตลาด Forex หมายความว่าสัญลักษณ์ของสกุลเงิน โดยเทรดเดอร์ในตลาดจะไม่ได้เรียกชื่อเต็ม แต่จะใช้สัญลักษณ์คู่สกุลเงินแทน 

เช่น EURUSD คือ ค่าเงินยูโร (EUR) และ ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐ (USD) 

Quote Currency ด้านหน้า Base Currencyด้านหลัง 


Price 

คือราคาของหุ้นหรือค่าเงินต่างๆ ที่ให้ข้อมูลกับการเทรดอย่างมาก ในกรณีที่เลือกเป็นกราฟรายวัน (Daily Chart) กราฟจะแสดงข้อมูลของแต่ละวันเป็นแบบนี้ 

High Price คือ ราคาสูงสุดของหุ้นหรือค่าเงินต่างๆเคยไปถึงในวันนั้น 

Low Price คือ ราคาต่ำสุดของหุ้นหรือค่าเงินต่างๆเคยไปถึงในวันนั้น 

Open Price ราคาหลักทรัพย์ ที่มาจากการซื้อขาย รายการแรกของแต่ละวัน 

Close Price ราคาหลักทรัพย์ ที่มาจากการซื้อขาย รายการสุดท้ายของแต่ละวัน 

Other Story