แท่งเทียน (Candlestick )
กราฟแท่งเทียนเป็นเครื่องมือทางเทคนิคสำหรับการวิเคราะห์ฟอเร็กซ์ที่ประกอบด้วยแท่งเทียนแต่ละแท่งในกราฟ ซึ่งบ่งชี้ถึงการเคลื่อนไหวของราคา การเคลื่อนไหวของราคาแท่งเทียน
แท่งเทียน มีส่วนประกอบอะไรบ้าง ?
- ราคาเปิด (Open Price) เป็นราคาซื้อขายแรกที่เกิดขึ้นตั้งแต่เปิดตลาด
- ราคาสูงสุด (High Price) การเคลื่อนไหวของราคาหุ้น ณ ระดับราคาสูงสุดในวันทำการ
- ราคาต่ำสุด (Low Price) การเคลื่อนไหวของราคาหุ้น ณ ระดับราคาต่ำสุดในวันทำการ
- ราคาปิด (Close Price) เป็นราคาสุดท้ายที่เกิดขึ้นจากการซื้อขายสิ้นสุดของวัน
- ราคาปิด สูงกว่า ราคาเปิด แท่งเทียน สีเขียว
- ราคาปิด ต่ำกว่า ราคาเปิด แท่งเทียน สีแดง
รูปแบบการกลับตัวที่เกิดขึ้นในสภาวะตลาดขาลง
ลักษณะ : จะเป็นแท่งเทียนที่มี body สั้นๆ แต่จะมีใส้ เทียนล่าง (Lower Shadow) ยาวเป็นอย่างน้อย 2 เท่า ของ body ลักษณะคล้ายๆกับ Hanging Man แต่ต่าง กันที่ เกิดในแนวโน้มขาลง
แนวโน้ม : การเกิด Hammer บ่งบอกถึงแรงขายใน ช่วงแรกแต่มีการซื้อกลับเข้ามาอย่างมากระหว่างวัน ทําให้แนวโน้มมีโอกาสกลับตัวเป็นขาขึ้น
รูปแบบการกลับตัวที่เกิดขึ้นใกล้จังหวะสิ้นสุดแนวโน้มขาขึ้น
ลักษณะ : แท่งเทียนจะมีหาง (Lower Shadow) ยาวเป็น 2 เท่าของตัวแท่ง ลักษณะคล้ายกับ Hammer แต่ ต่างกันที่ เกิดในแนวโน้มขาขึ้น
แนวโน้ม : รูปแบบ Hanging Man เกิดจากแรงขายที่ เข้ามามากกว่าปกติ และฝั่งชื้อเริ่มหมดพลัง บ่งบอกถึง โอกาสกลับตัวเป็นขาลง
รูปแบบการกลับตัวที่เกิดขึ้นในสภาวะตลาดขาลง
ลักษณะ : เป็นแท่งเทียนที่มี Body สั้นแต่มีหางด้านบน (Upper Shadow) ยาว และมีราคาปิดต่ําลักษณะคล้าย กับ Shooting Star แต่ต่างกันที่ เกิดในแนวโน้มขาลง
แนวโน้ม : ไส้เทียนด้านบนยาว บ่งบอกถึงการที่เริ่มมี แรงซื้อกลับเข้ามา อาจจะมีโอกาสเปลี่ยนแนวโน้มจากขา ลงเป็นขึ้น
รูปแบบการกลับตัวที่เกิดขึ้นใกล้จังหวะสิ้นสุดแนวโน้มขาขึ้น
ลักษณะ : ราคาปิดต่ํา เป็นแท่งเทียนที่มี body สั้น และ มีหางด้านบน (Upper Shadow) ยาวเป็นอย่างน้อย 2 เท่าของ body หน้าตาคล้าย Invert Hammer ต่างกัน ที่ เกิดในแนวโน้มขาขึ้น
แนวโน้ม : จากแนวโน้มราคาที่ขึ้นมาก่อนหน้านี้ ซึ่งเห็น ได้ว่ามีแรงซื้อพยายามดันราคาให้ขึ้นไปต่อ แต่ก็มีแรง ขายเข้ามามากจนกดดันราคาลงมาให้ปิดต่ํา ซึ่งเป็น สัญญาณเตือนถึงการเปลี่ยนทิศทาง
รูปแบบการกลับตัวมักเกิดขึ้นในสภาวะตลาดขาลง
ลักษณะ : ประกอบด้วยแท่งเทียน 2 แท่ง
1. แท่งแรกสีแดงยาวปิดต่ํา
2. แท่งที่สองราคาเปิด Gap ลง แต่สามารถขึ้นมาปิด สูงเกิน 50% ของแท่งก่อนหน้า
แนวโน้ม : มีแรงซื้อเข้ามามากในวันที่สองทําให้ฝ่ายขาย ไม่สามารถกดดันราคาต่อไปได้ บ่งบอกถึงโอกาสการ เปลี่ยนแนวโน้มเป็นขึ้น
รูปแบบการกลับตัวมักเกิดขึ้นในสภาวะตลาดขาขึ้น
ลักษณะ : ประกอบด้วยแท่งเทียน 2 แท่ง
1. แท่งแรกสีเขียวยาวปิดสูง
2. แท่งที่สองราคาเปิด Gap ขึ้น แต่ไม่สามารถยืนได้ ราคาลงมาปิดต่ําเกิน 50% ของแท่งก่อนหน้า
แนวโน้ม : จะมีแรงขายเข้ามาอย่างมีนัยยะสําคัญในวัน ที่สอง ตีความได้ว่าแรงซื้อถดถอย และอาจเปลี่ยนเป็น ขาลงได้
รูปแบบการกลับตัวมักเกิดขึ้นในสภาวะตลาดขาลง
ลักษณะ : ประกอบด้วยแท่งเทียน 2 แท่ง 1. แท่งแรกสีแดง Body เล็กกว่าแท่งสอง 2. แท่งที่สองราคาเปิด Gap ลง แต่กลับขึ้นมาปิดสูง กว่า และคลุมแท่งก่อนหน้า
แนวโน้ม : ราคาของวันที่สอง ถึงแม้จะเปิดต่ํามาก แต่สามารถกลับมาปิดได้สูงในเวลาถัดมา เป็นจุดหมุน ที่บ่งบอกการเปลี่ยน Sentiment จากลงเป็นขึ้น
รูปแบบการกลับตัวมักเกิดขึ้นในสภาวะตลาดขาขึ้น
ลักษณะ : ประกอบด้วยแท่งเทียน 2 แท่ง 1. แท่งแรกสีเขียว Body เล็กกว่าแท่งสอง 2. แท่งที่สองราคาเปิด Gap ขึ้นตอนแรก แต่ลงมาปิดต่ํากว่าและคลุมแท่งก่อนหน้า
แนวโน้ม : มีการเปิดสูงแต่ปิดต่ําของแท่งที่สองบ่งบอก ถึงแรงซื้อที่ไม่มีพลัง และแรงขายที่เข้ามาควบคุมเกมส์ ให้ระวังการเปลี่ยนเป็นขาลง
รูปแบบการกลับตัวระยะสั้นจากลงเป็นขึ้น
ลักษณะ : ประกอบด้วยแท่งเทียน 2 แท่ง
1. แท่งแรกสีแดงยาวปิดต่ํา
2. แท่งที่สองราคาเปิด Gap ลง เป็นแท่งที่ไม่มี Body ซึ่งราคาเปิดและราคาปิด อยู่ในระดับราคาเดียวกัน
แนวโน้ม : ตีความหมายได้ว่าแรงขายที่มีมากในวันแรก เริ่มอ่อนตัวลง มีแรงซื้อเข้ามาในวันที่สองทําให้ราคาเกิดความสมดุลใหม่และอาจเปลี่ยนทิศ
รูปแบบการกลับตัวระยะสั้นจากขึ้นเป็นลง
ลักษณะ : ประกอบด้วยแท่งเทียน 2 แท่ง
1. แท่งแรกสีเขียวยาวปิดสูง
2. แท่งที่สองราคาเปิด Gap ขึ้น เป็นแท่งที่ไม่มี Body ซึ่งราคาเปิดและราคาปิด อยู่ในระดับราคาเดียวกัน
แนวโน้ม : ฝ่ายซื้ออาจไม่ได้มีนัยยะจริงและอาจมีแรง ขายที่ช่อนอยู่ ดูได้จากราคาในวันที่สองที่ไม่สามารถไป ต่อได้ (เปิดปิดเท่ากัน) มีโอกาสที่จะเปลี่ยนเป็นลงในวันถัดไป